Last updated: 4 พ.ค. 2566 | 412 จำนวนผู้เข้าชม |
ฟิลเลอร์คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิวที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มและเสริมชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนังด้วยคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับ เปล่งปลั่ง กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มร่องลึก ร่องแก้ม มิดเฟส โหนกแก้ม ใต้ตา แล้วยังสามารถใช้ปรับแก้รูปหน้าได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปรับคางให้ดูยาวขึ้น แก้ปัญหาคางตัด คางสั้น หน้าสั้น หรือฉีดปากก็ช่วย ในเรื่อง ปากไม่เท่ากัน มุมปากตก ร่องลึกบนริมฝีปาก ปัญหาปากแห้ง
ประเภทของฟิลเลอร์
1.Permanent Fillers เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่แบบถาวร ไม่สามารถสลายได้ หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย. เช่น Biosynthetic Polymers จำพวกซิลิโคนเหลว, Calcium Hydroxylapatite, Polymethylmethacrylate ฉีดแล้วแข็งเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือกลายเป็นพังผืด ต้องผ่าออก หรือขูดออกเท่านั้น
2.Non Permanent Fillers เป็นฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูรอนิค สามารถสลายได้ ผ่าน อย.ไทย มีความปลอดภัย ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยหลังฟิลเลอร์สลายสามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ซึ่งทาง Paragon Clinic เลือกใช้ฟิลเลอร์ประเภทนี้
ฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์กับเราไม่อันตรายเนื่องจากฟิลเลอร์ที่เราใช้เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เป็นสารที่สามารถสลายได้ 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ทำให้ปลอดภัย แต่ในการฉีดฟิลเลอร์มีข้อควรกังวลอยู่ 2 ข้อ คือ
1.ปัญหาเรื่องของฟิลเลอร์ปลอมหรือที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทาง FDA หรือ อย. ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่อย่างมากมายถ้าคุณเห็นฟิลเลอร์ที่ราคาถูกมากๆ แนะนำให้สงสัยก่อนเลยว่าอาจจะเป็นของปลอม หรือ เป็นของที่ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะต้นทุนของฟิลเลอร์เป็นอะไรที่สูงมากดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ในราคาถูกจนเกินไปจึงดูน่าสงสัยมากๆ ซึ่งหากฉีดไปแล้วอาจจะทำให้คุณมีอันตรายถึงชีวิตได้
2.ปัญหาเรื่องแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากในปัจจุบันการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์โดยที่มีทักษะ และชำนาญเทคนิคต่างๆนั้นมีน้อยซึ่งเวลาฉีดแต่ละครั้งมักจะทำให้มีค่าฝีมือที่ราคาสูง ทำให้หลายคนหันไปฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญแทนเพื่อประหยัดเงินทำให้หลายครั้งการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่น่าพอใจ หรือ ส่งผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งแพทย์ที่ Paragon Clinic ของเราเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานลูกค้าสามารถเช็คได้ ที่นี่
ดังนั้นก่อนการฉีดควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนที่เลือกฉีดลงไป หรือ ไม่ก็อาจจะแวะเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราที่ Paragon Clinic ก่อนทางคลินิกของเรายินดีให้บริการทุกคน
ฟิลเลอร์เห็นผลจริงไหม?
การฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีดประมาณ 70-80% โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาไม่นาน เหมาะ สำหรับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ และมีเวลาจำกัด
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
1.ฟิลเลอร์แท้ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ที่จะส่งผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังไว้ โดยต้องเป็น Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน FDA หรือ อย. รับรอง และสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้อย่างชัดเจน
2.แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบรูปหน้า (Facial Design) โดยคุณหมอจะวิเคราะห์รูปหน้าให้กับลูกค้าแต่ละบุคคลก่อนที่จะออกแบบรูปหน้า และวางแผนการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น Eye nature เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา และเสริมให้ใบหน้าลูกค้าดูดี ดูเฉพาะตัว โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ลูกค้าสามารถตรวจสอบชื่อ ประวัติของแพทย์ได้ ที่นี่
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรทำยังไง ?
1.จะเกิดรอยเขียวช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์จะเกิดรอยช้ำเขียวได้ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์รอยช้ำเขียวจะหายไป
2.ควรทายาเช้า กลางวัน เย็น ควรทายา Arnica และ Reparil gel เช้า กลางวัน เย็น เพื่อลดอาการเขียวช้ำ
3.งดรับประทานวิตามิน งดรับประทานวิตามินอี น้ำมันตับปลา แอลกอฮอล์ หลังฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มรอยเขียวช้ำ
4.งดทาครีม 1 คืน แนะนำให้ล้างน้ำด้วยน้ำเปล่า และงดทาครีม แต่งหน้า 1 คืน
5.หลีกเลี่ยงความร้อน หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนความร้อนโดยตรง เช่น hot spa อบซาวน่า การออกกำลังกายหนักๆ เลเซอร์หน้า 1 สัปดาห์
6.งดนวดหน้า หลีกเลี่ยงการกดนวดหน้า หรือขัดหน้าอย่างรุนแรง 2 สัปดาห์
7.ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 1.5 ลิตรต่อวันเพื่อคงสภาพที่ดีของฟิลเลอร์
8.งดของหมักของดอง 3-4 สัปดาห์
เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจหลังฉีดฟิลเลอร์
1.ช่วง 2 สัปดาห์แรก หากมีอาการบวมช้ำ จะทำให้หลอกตาเราว่าเกินจริง ได้ต้องรอให้อาการเขียวช้ำหายก่อน จึงจะสามารถประเมิน และปรับได้
2.เวลาลูบ หรือคลำหน้าอาจจะสะดุดมือเกิดจาการที่ฟิลเลอร์ยังไม่ประสานกับผิวซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 2 เดือน ฟิลเลอร์จะประสานกับผิว และเมื่อคลำจะไม่เจอก้อน
3.ในช่วง 2 เดือนแรก หากมีตำแหน่งที่ไม่เรียบเนียน คุณหมอยังสามารถปรับได้
ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?
1.บริเวณใต้ตา ทำให้ลดปัญหา ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบขึ้น
2.ริมฝีปาก ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม ทำให้ริมฝีปากของคุณไม่หมองคล้ำ ดูชุ่มฉ่ำ และมีรูปทรงที่สวยงาม
3.ลิฟต์หน้า ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น กรอบหน้าดูชัดขึ้น ทำให้ดูเด็กลง
4.โหนกแก้ม ช่วยแก้ปัญหาเรื่องโหนกแก้มยุบ หน้าแบน ทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
5.ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
6.คาง ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวขึ้น กรอบหน้าดูวีขึ้น
7.มิดเฟส เป็นการฉีดฟิลเลอร์ตรงหน้าแก้ม ทำให้หน้าดูยกขึ้น ร่องรอยที่หย่อนคล้อยก็ตึงขึ้น
Paragon Clinic มีฟิลเลอร์อะไรบ้าง ?
ที่ Paragon Clinic ของเรามีฟิลเลอร์ 2 แบรนด์ใหญ่ซึ่งเราเลือกสรรมาแล้ว และได้รับการยอมรับซึ่งรับรองได้เลยว่าสามารถฉีดได้ครอบคลุมทุกส่วนของใบหน้า ฉีดแล้วหน้าเป๊ะ ฉีดแล้วหน้าปังอย่างแน่นอนประกอบไปด้วย
Restylane
ฟิลเลอร์ อันดับ 1 ของโลกจากประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผลิตฟิลเลอร์มาอย่างยาวนานที่สุดในโลก และยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ฟิลเลอร์ของ Restylane เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมากเพราะใกล้เคียงกับสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเรา จึงไม่เกิดการต่อต้านซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังมีการผสมยาชามาในตัวด้วยทำให้ลดความเจ็บปวดได้เป็นอย่างมากแล้วยังมีการศึกษาวิจัยออกมารองรับเป็นจำนวนมากทำให้รับรองได้เลยว่าปลอดภัยไร้กังวลซึ่งทาง Paragon Clinic ของเราคัดสรรรุ่นต่างๆเพื่อครอบคลุมสำหรับการฉีดทุกสัดส่วนบนใบหน้าได้แก่
1. Restylane รุ่น Vital light กล่องสีส้ม สำหรับฉีดบริเวณใต้ดวงตา
เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่น คือ อนุภาคขนาดเล็ก มีความนิ่มที่สุด ทำให้สามารถเข้าไปเติมเต็มจุดที่มีปัญหาขนาดเล็กได้เป็นอย่างดีจึงนิยมนำไปใช้แก้ปัญหาบริเวณใต้ดวงตา เช่น ริ้วรอยใต้ดวงตา ถุงใต้ดวงตา ลดใต้ตาคล้ำ ซึ่งฟิลเลอร์ตัวนี้จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระจ่างใสดูละมุนมากขึ้น ซึ่งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก และสามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
2. Restylane รุ่น Lyft กล่องสีฟ้า ฉีดได้ทุกบริเวณบนใบหน้ายกเว้นดวงตา
เป็นฟิลเลอร์ที่มีจุดเด่น คือ แรงยกกระชับมาก มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด สามารถฉีดได้ทุกบริเวณซึ่งแต่ละบริเวณก็จะให้ผลลัพธ์แตกต่างกันไป เช่น ฉีดตรงร่องแก้มจะทำให้ร่องแก้มลดลงใบหน้าดูกระชับทำให้ดูมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก และสามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
3. Restylane รุ่น Kysse กล่องสีน้ำเงิน สำหรับบริเวณริมฝีปาก
เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Restylane ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ โดยตัวนี้จะเป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด แต่มีความคงตัวสามารถช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้น เติมความอวบอิ่ม และปรับริมฝีปากให้ดูสวยอมชมพู ซึ่งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก และอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
e.p.t.q.
ฟิลเลอร์พรีเมี่ยมจากประเทศชั้นนำด้านความงามประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นแบรนด์ล่าสุดที่ผ่าน อย. ของประเทศไทย ฟิลเลอร์ ของ e.p.t.q. เป็นการใช้สารตั้งต้น Hyaluronic acid หรือ HA ที่ได้รับการมาตรฐานจาก US FDA EDQM ระดับสากล และพึ่งได้รับ อย. จากประไทย ที่มีความเข้มข้นถึง 24 mg/ml ในปริมาณ 1.1 ml ซึ่งถือว่าเยอะกว่าฟิลเลอร์ตัวอื่นในตลาด ทั้งยังใช้เทคโนโลยี Cross-link ที่ทำให้ได้ค่า Mod ที่ต่ำกว่าทำให้มีความปลอดภัยที่สูง และยังผสมยาชาไปในตัวทำให้ลดความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี ฟิลเลอร์ e.p.t.q มี 3 รุ่นดังนี้
1. e.p.t.q รุ่น S 100 กล่องสีเขียว สำหรับฉีดบริเวณใต้ดวงตา
รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์บางเบาที่สุดในทั้ง 3 รุ่น ของแบรนด์ e.p.t.q.ซึ่งมีเนื้อที่ละเอียดอ่อน มีความนิ่ม และความยืดหยุ่นมาก ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าไปแก้ปัญหาในพื้นที่ขนาดเล็กบริเวณใต้ดวงตา เช่น ตาลึก ตาโบ๋ ถุงใต้ตา ได้เป็นอย่างดีทั้งยังทำให้ริ้วรอยใต้ตาตื้นขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้บริเวณรอบดวงตา ทั้งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก และสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
2. e.p.t.q รุ่น S 300 กล่องสีส้ม สำหรับฉีดบริเวณ ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์ไม่หนาแน่นหรือนิ่มเกินไป ทำให้เวลาฉีดเข้าไปแล้วสามารถคงโครงสร้างไว้ได้ และอยู่ได้นานกว่ารุ่น S 100 ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้ม แก้มตอบ ขอบปากไม่เป็นทรง คางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ทั้งสามารถเสริมคางทำให้หน้าดูเรียวขึ้น ดูวีขึ้น ทั้งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก สามารถอยู่ได้นานถึง 9 เดือน
3. e.p.t.q รุ่น S 500 กล่องสีน้ำเงิน สำหรับฉีด มิดเฟส โหนกแก้ม ลิฟต์หน้า
รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เนื้อฟิลเลอร์หนาแน่นที่สุดทำให้สามารถแก้ไขปัญหา ผิวหน้าหย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น ปัญหาหน้าแบนให้ดูยก มีมิติ ทั้งยังช่วยในการทำกรอบหน้าให้ชัดขึ้น วีขึ้น และดูเด็กลง อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งรุ่นนี้ยังมียาชาภายในตัวทำให้สามารถลดความเจ็บปวดในระหว่างการฉีดได้เป็นอย่างมาก สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
หรือสำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์รุ่นไหนดี Paragon Clinic ของเราก็ยินดีให้คุณเข้ามาปรึกษาในช่องทางออนไลน์ต่างๆของทางคลินิกได้ดังนี้
Facebook :
Paragon Clinic พารากอน คลินิก กำแพงเพชร
Paragon Clinic พารากอน คลินิก พิจิตร
Paragon Clinic พารากอน คลินิก อุตรดิตถ์
Paragon Clinic พารากอน คลินิก พิษณุโลก
Line:
Paragon Clinic พารากอน คลินิก กำแพงเพชร
Paragon Clinic พารากอน คลินิก พิจิตร
Paragon Clinic พารากอน คลินิก อุตรดิตถ์
Paragon Clinic พารากอน คลินิก พิษณุโลก
Instragram:
paragon__clinic
จะมั่นใจได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์ที่เราฉีดเป็นของจริงรึเปล่า?
สำหรับทาง Paragon Clinic ฟิลเลอร์ทุกกล่องจะสามารถตรวจสอบได้โดยทุกกล่องจะมีรายละเอียดให้ทุกคนได้รับความมั่นใจว่าได้ฉีดฟิลเลอร์ของแท้แน่นอนดังนี้
-เลขทะเบียนจากทาง อย.
-เลขที่ Lot ข้างกล่อง และเลขที่หลอด ซึ่งจะตรงกันทั้ง 2 จุด
-QR Code เพื่อตรวจสอบถึงที่มาของฟิลเลอร์ว่ามาจากไหน
-สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.galdermaaestheticsthailand.com/clinic
-เราจะทำการแกะกล่องต่อหน้าลูกค้าทุกครั้งดังนั้นคุณมั่นใจได้เลยว่า เป็นฟิลเลอร์จะเป็นของจริงไม่มีการสับเปลี่ยนระหว่างทางอย่างแน่นอน
ทำไมต้อง Paragon Clinic ?
หลังจากที่ทุกคนได้รับรู้ข้อมูลของฟิลเลอร์ไปแล้วในทั้งข้อดีที่สามารถช่วยเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาในส่วนต่างๆซึ่งจะทำให้คุณสวย ดูดี มีความมั่นใจมากขึ้นในการออกไปใช้ชีวิตประจำวัน ออกไปปาร์ตี้ เข้าร่วมงานทางสังคมต่างๆ หรือ ทางด้าน ข้อเสีย และความเสี่ยงในเรื่องของการฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้รับการยอมรับ หรือ ฉีดโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ที่นอกจากจะทำให้คุณเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้วยังส่งผลกระทบต่อใบหน้า สุขภาพ หรือ อาจถึงขั้นชีวิตของคุณเลยก็ได้
ดังนั้นเราจะลดความเสี่ยงตรงนี้โดยทาง Paragon Clinic มีฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพได้รับการยอมรับมาตรฐานจากทาง FDA และอย. ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของโลก และแพทย์ของทางคลินิกเราขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชำนาญในเรื่องของการ ฉีด ซึ่งการันตีด้วยรางวัล “คลินิกที่มียอดที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ e.p.t.q. สูงสุดในประเทศปี 2021” นอกจากนี้ยังได้รับ “รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ประจำปี 2565’ จาก Galderma Aesthetics Thailand” โดยแพทย์ของเรายังเชี่ยวชาญในเรื่อง Fill & Remove Facial Design ซึ่งเป็นการประเมิน และออกแบบรูปหน้า ดังนั้นจึงสามารถจะปรับเปลี่ยนรูปหน้าคุณให้ดูสวย มีความเฉพาะตัว โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และดูลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติสามารถมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับความสวยงามที่ปลอดภัยไร้กังวลในทุกขั้นตอนอย่างแน่นอน
เคสรีวิว
เคสนี้ลูกค้าใต้ตาคล้ำ และ ลึกมาตั้งแต่กำเนิดเรียกว่า Juvennile Tear Trough ทำให้มักโดนทักนอนดึกหรอ? พักผ่อนบ้างรึเปล่าเนี่ย? จึงมาปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็เลยแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 ซีซี ผลที่ได้คือสีผิวบริเวณใต้ตาดูสว่างขึ้นทันทีทำให้ใต้ตาที่คล้ำหายไป ร่องใต้ตาที่ลึกก็ตื้นลงทำให้หน้าดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด
เคสนี้ลูกค้ามีความกังวลใจตรงร่องแก้มและใต้ตาที่ลึก ทำให้โดนแฟนทักว่าหน้าดูโทรม ดูเป็นคนมีอายุมากกว่าวัยเลยมาขอคำปรึกษาคุณหมอเลยแนะนำให้ฉีด 2 ซีซี ตรงMidface และใต้ตา ทำให้ร่องลึกตรงแก้ม และใต้ตาที่ลึกก็ดูตื้นขึ้น ทำให้ตาดูสดชื่นมีชีวิตชีวามากขึ้น
เคสนี้ลูกค้าเคยศัลยกรรมปากทรงกระจับมาก่อน แต่ผลที่ออกมาไม่น่าพึงพอใจเพราะปากดูบางมากทำให้เวลาไม่ยิ้มก็ยังเห็นฟันอยู่ตลอด คุณหมอเลยแนะนำ ฉีด Restylane รุ่น Kysse 1 ซีซี ทำให้ปากละมุ่น เนียนสวย ดูมีวอลลุ่มที่มากขึ้น แถมคุณหมอยังยกมุมปากขึ้นให้อีกนิดนึงทำให้ ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลา
เคสนี้ลูกค้ามีปัญหาเรื่องใต้ตาลึกใต้ตาดำ เนื่องมาจากการเป็นภูมิแพ้ ทำให้มีอาการคันตา เคืองตา จึงทำให้มักเผลอนำมือไปขยี้ดวงตาส่งผลให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาดำคล้ำ คุณหมอจึงแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ 1 ซีซี ใต้ดวงตาทำให้ตาที่ลึกดูตื้นลง และผิวบริเวณรอบดวงตาดูสว่างมากขึ้น
เคสนี้ลูกค้าต้องการเสริมคางให้ดูยาวขึ้น คุณหมอเลยแนะนำให้ฉีด 1 ซีซีในบริเวณคางทั้งหมดเพื่อไม่ให้คางดูแหลมโดดออกมามากเกินไป พอฉีดแล้วทำให้คางดูยาวขึ้นแต่เป็นธรรมชาติโดยเมื่อดูตั้งแต่กรามไล่ลงมาจนถึงคางดูรับและเข้ากันตลอดแนวหน้าดูวีเชฟมากขึ้น
27 ต.ค. 2566
12 ต.ค. 2566