รอยยับ สัญญาณแห่งความชรา หยุดได้ด้วย Botox

รอยยับบนใบหน้า สัญญาณแห่งความชรา คืออะไร ?
               รอยยับ คือ สิ่งที่ย้ำเตือนคุณว่าความชราใกล้เข้ามาแล้วได้เวลาที่ร่างกายคุณเริ่มจะเสื่อมถอยลงแล้ว ซึ่งรอยยับก็มีหลากหลายจุดครับ แต่ที่เห็นได้ชัดคือรอยยับบนใบหน้าเรียกรวม ๆ ว่า ริ้วรอย ซึ่งมีทั้ง ตีนกา รอยย่น หน้าผาก หว่างคิ้ว ร่องแก้ม แต่รอยยับไม่ได้มีแค่ใบหน้าเท่านั้นยังรวมไปถึงในส่วนของลำคออีกด้วย เนื่องจากทั้ง 2 เป็นจุดที่บอบบางทั้งยังต้องพบเจอกับมลภาวะต่าง ๆ ที่เข้ามาทำร้ายผิวหนังของเรา ทำให้ใบหน้า และลำคอเราเกิดรอยยับขึ้นคล้ายกับคนแก่ดังนั้นคุณควรหันมาใส่ใจในตัวเองได้แล้ว เพราะ หากปล่อยทิ้งไว้นานเข้าจะทำให้รักษายากขึ้น และจากที่คล้ายกับคนแก่คุณก็จะกลายเป็นคนแก่ไปจริง ๆ ดังนั้นวันนี้เรามาปิดสัญญาณแห่งความชรานี้ด้วยโบท็อก

โบท็อกคืออะไร?

               โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของการของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin type A) เป็นโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรีย ครอสตริเดียม โบนูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เซลล์ไม่สามารถหลั่งสารออกมาเพื่อสื่อสารได้จึงทำให้มัดกล้ามเนื้อในร่างกายของเราทำงานได้ลดลงชั่วคราว ซึ่งในวงการเสริมความงามนิยมนำมาใช้กับการลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอย ลดขนาดรูขุมขน และลดกรามช่วยทำให้ใบหน้าเราดูเล็ก กรอบหน้าดูชัด และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

ฉีดโบท็อกช่วยแก้ปัญหาอะไร และฉีดจุดไหนได้บ้าง?

               โบท็อกเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์สูงครับทำให้สามารถฉีดได้หลายจุดทั่วหน้าเลยโดย แต่ละจุดก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปได้ดังนั้นเราจึงแบ่งตามการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังนี้

1.ฉีดเพื่อลดริ้วรอยเป็นการฉีดที่นิยมมากซึ่งส่วนใหญ่จะฉีดในบริเวณ ขมวดคิ้ว หน้าผาก รัดแกนจมูก ปีกจมูก คาง หางตา ซึ่งตัวโบท็อกจะเข้าไปทำให้เส้นประสาทไม่สามารถสั่งการกล้ามเนื้อได้ทำให้ริ้วรอยค่อย ๆ จางลง

2.ฉีดเพื่อแก้ผิวหนังหย่อนคล้อย ลิฟต์กรอบหน้าโดยสามารถฉีดไล่ตามกรอบหน้าขึ้นไป หรือบริเวณคอเป็นอีกหนึ่งการฉีดเลยที่เป็นที่นิยมเนื่องจาก ทำให้ใบหน้าดูเล็ก เรียว และกรอบหน้าดูชัดขึ้น

3.ฉีดกระชับรูขุมขน โดยฉีดตัวโบท็อกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อที่จะทำให้รูขุมขนเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาดส่งผลให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น

4.ฉีดเพื่อลดขนาดกราม โดยจะฉีดในบริเวณกราม และขากรรไกรเพื่อให้ระบบประสาทไม่สามารถสั่งการกล้ามเนื้อให้ขยับเขยื้อนได้เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ก็จะทำให้มีขนาดเล็กลงส่งผลให้ใบหน้าดูเล็กลงตามไปด้วย

ขั้นตอนการฉีดโบท็อก

1.ในขั้นตอนแรกเราจะต้องพบแพทย์ Fill & Remove Facial Design เพื่อปรึกษาโดยให้แพทย์วิเคราะห์ และประเมินถึงปัญหาที่อยู่บนใบหน้าก่อนเพื่อที่จะได้กำหนดวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำครับ
2.เลือกยี่ห้อของโบท็อกที่จะใช้โดย แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปในเรื่องของการกระจายตัว ระยะเวลา รวมไปถึงความเร็วในการออกฤทธิ์
3.ก่อนเริ่มฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง หรือว่าแปะยาชาให้คนไข้ก่อนเพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บมากเกินไป ซึ่งในขั้นตอนนี้คนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิธีไหนครับ
4.แพทย์จะฉีดโบท็อกเข้าไปในตำแหน่งที่วิเคราะห์ออกมาแล้วด้วยเข็มที่มีขนาดเล็ก ในปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

โบท็อกที่ทาง Paragon Clinic มียี่ห้ออะไรบ้าง?

Allergan

               Allergan โบท็อกสัญชาติอเมริกาดินแดนแห่งเสรีแบรนด์ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่คิดค้นสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin type A) ในการใช้ลดริ้วรอย โดยตัวนี้จะมีโมเลกุลที่ใหญ่ทั้งยังมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ตัวยาจะไม่กระจายตัวไปในวงกว้างทำให้เมื่อฉีดไปแล้วตัวยาจะยังคงอยู่ในบริเวณที่ต้องการ สามารถเห็นผลได้ภายใน 2-3 วัน ด้วยลักษณะเด่นแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นแบรนด์ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก

Dysport

 
               Dysport โบท็อกสัญชาติอังกฤษดินแดนแห่งผู้ดีโดยคนไทยเรานิยมเรียกโบอังกฤษ หรือ ABO ซึ่งโบท็อกตัวนี้มีจุดเด่นคือมีโมเลกุลขนาดเล็กทำให้สามารถกระจายตัวออกไปได้ในบริเวณกว้างซึ่งข้อดีของ Dysport คือ เมื่อฉีดไปแล้วจะทำให้หน้ารู้สึกตึงน้อยกว่าตัวอื่น และสามารถเห็นผลภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับคนที่อยากเห็นผลลัพธ์ไวต้อง Dysport เลยครับ

Hugel

               Hugel โบท็อกสัญชาติเกาหลีดินแดนแห่งความงามโดยจุดเด่นของตัวนี้คือมีบริสุทธิ์สูงถึง 99.51% ทำให้สามารถป้องกันการดื้อยาจากการที่ร่างกายมีแอนติบอดี้สูงที่เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปแล้วโบท็อกไม่สามารถทำงานได้ทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ

ข้อปฏิบัติหลังการฉีดโบท็อก

การฉีดโบท็อกเป็นประจำส่งผลอย่างไร ?
               การฉีดโบท็อกเป็นประจำมีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์ในการฉีดครั้งต่อ ๆ ไปอยู่ได้นานขึ้นครับเนื่องจากเมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อลดขนาดลง และกลับมาทำงานได้ยากขึ้นกว่าเดิมซึ่งแนะนำให้ฉีดทุก ๆ 4-6 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยาขึ้นครับ

โบท็อกอันตรายไหมฉีดออกมาแล้วหน้าจะแข็งปากจะเบี้ยวรึเปล่า?

               การฉีดโบท็อกไม่อันตรายเลยครับหากเราฉีดด้วยโบท็อกของแท้ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และอย.ของไทยโดยฉีดกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญไม่งั้นอาจจะเกิดอาการ บวมแดง ช้ำเขียว แพ้เห่อแดง หางคิ้วกระดก รูปหน้าไม่สมดุล สีหน้าแข็งไม่สามารถแสดงอารมได้
               ซึ่ง Paragon Clinic มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้าน Fill & Remove Facial Design ทำให้สามารถ วิเคราะห์รูปหน้า และประเมินตัวยาที่ต้องฉีดให้เหมาะสมกับปัญหาบนใบหน้าของคุณหายไปได้เลยจะไม่เกิดอาการอย่างที่กล่าวไปแน่นอนครับ

ทำไม? ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล

               สำหรับคนที่เคยฉีดโบท็อกมาแล้วไม่เห็นผลอาจจะมีสาเหตุมาจากปัญหาเหล่านี้ครับ
1.โบท็อกถูกเจือจางมากเกินไปโดยปกติตัวโบท็อกจะเป็นผลึกใส ๆ จนเราแทบมองไม่เห็นอยู่ภายในตัวขวดซึ่งการที่เราจะนำออกมาได้นั้นเราต้องนำน้ำเกลือมาผสมลงไปในขวดก่อนจะใช้กระบอกฉีดยาดึงออกมาแล้วจึงนำไปฉีดในบริเวณต่าง ๆซึ่งบางครั้งการผสมน้ำเกลือมากเกิดไปก็ทำให้ตัวยาไม่สามารถออกฤทธิ์อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
2.หมอฉีดโบท็อกผิดตำแหน่งทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผลนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ควรฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ และความชำนาญ Fill & Remove Facial Design ครับซึ่งจะทำให้เห็นผลลัพธ์ออกมาได้อย่างชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ
3.คนไข้มีอาการดื้อโบท็อก ในร่างกายคนไข้ที่มีแอนตี้บอดี้สูงเนื่องจากอาจจะเคยฉีดโบท็อกปลอมที่มีความบริสุทธิ์ต่ำมาก่อน ทำให้ร่างกายต้องสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาเพื่อต่อต้าน ทำให้ตัวโบท็อกไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ ดังนั้นจึงควรฉีดโบท็อกแท้ที่มีความบริสุทธิ์ที่สูงครับ

ฉีดโบท็อกทำไมต้องที่ Paragon Clinic

               โบท็อกเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์สูงทำให้มีความเสี่ยงที่น้อยมากแต่ถึงความเสี่ยงจะต่ำก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยซึ่งใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับตัวเองไม่ว่าจะเป็นอาการเล็ก ๆ อย่างอาการแพ้ บวมแดง ช้ำเขียว  หรืออาการหนักๆ ปากเบี้ยว รูปหน้าไม่สมดุล และหน้าแข็งไม่สามารถแสดงอารมได้ ซึ่งส่งผลต่อการออกไปใช้ในชีวิตประจำวัน
               ดังนั้น Paragon Clinic ขอช่วยเป็นที่ปรึกษาที่จะคอยแนะนำเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกให้กับคุณเพื่อลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด โดยปรึกษากับคุณหมอที่เชี่ยวชาญ Fill & Remove Facial Design ที่จะวิเคราะห์ปัญหาของคุณอย่างตรงไปตรงมา ทั้งแก้ปัญหาของคุณในเรื่องริ้วรอย  ผิวหน้าไม่กระชับ และกรามใหญ่ได้อย่างตรงจุดทำให้รูปหน้าที่ออกมาดูดี และเป็นธรรมชาติ

Case Review